คู่มือเตรียมความพร้อมก่อนเริ่มธุรกิจให้ปัง!
การดำเนินธุรกิจให้ประสบความสำเร็จได้นั้น แน่นอนคุณต้องมีการวางแผน สร้างแผนธุรกิจขึ้นมาก่อนล่วงหน้าเสมอ เพราะถ้าคุณไม่วางแผนและเริ่มต้นทำธุรกิจเลยโดยที่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับธุรกิจและแผนทางด้านการตลาดมาก่อนคุณก็อาจจะได้ผลกำไรตอบแทนที่ไม่คุ้มค่า เกิดการขาดทุนอย่างมหาศาลเป็นหนี้และสูญเสียเงินทองไปมากมายหรืออาจถึงขั้นบริษัท ล้มละลายได้เลยทีเดียว ดังนั้นผู้ประกอบการในอนาคตทุกๆคนควรจะเตรียมตัววางแผนเอาไว้ก่อนทำธุรกิจเสมอ เพื่อให้ ธุรกิจของคุณสามารถดำเนินไปได้อย่างราบรื่นได้ผลกำไรตอบ แทนที่สูงและคุ้มค่ามีลูกค้าเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่องจน
ซึ่งหากใครที่กำลังอยากจะมีธุรกิจเป็นของตนเองและกำลังมองหาแนวทางในการเตรียมความพร้อมก่อนเริ่มต้นธุรกิจอยู่ล่ะก็ บทความนี้จะสามารถช่วยให้คุณกลายเป็นผู้ประกอบการที่มีประสิทธิภาพได้อย่างแน่นอน โดยสิ่งที่ผู้ประกอบการทุกๆคนควรทำมีดังต่อไปนี้
1. พิจารณาเงินทุนและงบประมาณของตนเอง
เงินทุนเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้น ๆของการทำธุรกิจเพราะถ้าไม่มีเงินทุนต่อให้ไอเดียดีแค่ไหนก็ไม่อาจสานต่อความฝันนั้น ๆได้ ดังนั้นคุณจึงควรมีทั้งเงินทุนและเงินสำรองเอาไว้เผื่อเกิดเหตุที่ไม่คาดฝันขึ้นด้วย เงินทุนที่ต้องใช้นั้นจะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับประเภทของธุรกิจด้วยเช่นเดียวกันบางประเภทอาจไม่จำเป็นต้องใช้เงินมากแต่บางประเภทก็อาจจำเป็น นอกจากนี้คุณยังควรคำนวณค่าใช้จ่ายคร่าว ๆทั้งค่าทำการตลาดเพื่อโปรโมทสินค้า ค่าวัตถุดิบที่ต้องใช้ในการผลิตสินค้า หรือค่าใช้จ่ายอื่นๆเอาไว้ล่วงหน้าเพื่อดูว่าคุณจะ สามารถแบกรับภาระและความเสี่ยงเหล่านั้นไหวหรือไม่
2.พิจารณาว่าความชอบของคุณว่าคุณต้องการทำธุรกิจประเภทใด
รวมถึงธุรกิจประเภทนั้นเหมาะกับคุณหรือไม่อย่าทำธุรกิจเพราะแค่ตามกระแสที่เห็นคนทำก็เลยทำตามเพราะถ้าเป็นแบบนี่จะทำให้คุณทำได้ไม่นาน สักพักก็จะรู้สึกเบื่อเมื่อผลลัพธ์ที่คาดหวังไว้ไม่เป็นไปตามที่ต้องการ คุณจึงควรทำธุรกิจด้วยใจรักหรือมีความหลงใหลในการทำธุรกิจนั้นจริงๆเพื่อที่คุณจะได้ ทุ่มเทให้กับมันได้อย่างเต็มที่และไม่รู้สึกเบื่อไปกลางคันเสียก่อน

3. วางแผนกลยุทธ์ด้านการตลาด
โดยใช้หลักการ 4P ซึ่งก็คือ Product (สินค้า), Price (ราคาขายสินค้า), Place (สถานที่), Promotion (โปรโมชั่น) เพื่อช่วยในการทำให้มองเห็นหลักการของธุรกิจได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
Product (สินค้า) คุณควรกำหนดก่อนว่าคุณต้องการขาย สินค้าประเภทใดหรือบริการประเภทไหนเพื่อที่จะได้สามารถ เจาะจงกลุ่มตลาดหรือกลุ่มเป้าหมายได้อย่างถูกต้อง รวมทั้งยังควรผลิตสินค้าที่มีคุณภาพและให้บริการที่ดีและน่าประทับใจ เพื่อทำให้ลูกค้ารู้สึกพึงพอใจในผลิตภัณฑ์ หรือบริการของคุณ จนเกิดการบอกต่อกันเป็นวงกว้าง นอกจากนี้คุณยังควรหมั่นพัฒนาสินค้าของคุณให้ดียิ่งขึ้นอย่างสม่ำเสมอ อีกทั้งยังควรออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้ทันสมัย สวยงามและน่าดึงดูดใจ เพื่อให้ลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้าและใช้บริการอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นลูกค้าประจำไปในที่สุด
Price (ราคาขาย) คุณควรกำหนดราคาของสินค้าให้ชัดเจน รวมทั้งควรกำหนดราคาให้เหมาะสมไม่ถูกหรือแพงมากจนเกินไป นอกจากนี้คุณยังควรสำรวจราคาของคู่แข่งว่าเขาขายกันเท่าไหร่และนำมาปรับใช้กับร้านค้าของคุณให้เหมาะสม
Place (สถานที่) คุณควรวางแผนว่าคุณจะขายสินค้าหรือบริการของคุณผ่านช่องทางไหนถึงจะคุ้มค่าที่สุดและทำให้มี ลูกค้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่องมากที่สุด รวมทั้งยังควรดูว่ากลุ่มเป้าหมายนิยมซื้อขายผ่านทางช่องทางไหนบ่อยที่สุด แน่นอนว่าช่องทางแต่ละประเภทก็มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป อย่างทางออนไลน์ก็ช่วยให้ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าได้อย่างสะดวกสบายและรวดเร็วขึ้น โดยที่ไม่ต้องเดินทางออกไปไหน อีกทั้งยังไม่ต้องใช้เงินลงทุนสูงมากนัก ส่วนการช่องทางการค้าขายผ่านทางหน้าร้านค้าก็จะทำให้ลูกค้าได้จับต้องสินค้าของจริง แต่ยังต้องใช้ต้นทุนในการเลือกซื้อทำเลที่ตั้งและตกแต่งร้านสูงมากทีเดียว รวมทั้งอาจทำให้ลูกค้าเสียเวลาในการเดินทางไปด้วยเช่นเดียวกัน ดังนั้นบางร้านค้าจึงขายผ่านทั้ง 2 ช่องทางนี้พร้อมกันเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าที่มีความต้องการหลากหลายปะปนกันไป
Promotion (โปรโมชั่น) จัดโปรโมชั่นที่น่าดึงดูดใจให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของคุณอยากเข้ามาซื้อสินค้าและใช้บริการ จากร้านค้าของคุณถ้าหากคุณมีเป็นร้านค้า คุณก็ควรติดป้ายโปรโมชั่นที่มีความโดดเด่นและมีสีสันสะดุดตาไว้หน้าร้านและจัดวางสินค้าที่ต้องการส่งเสริมการขายไว้ในจุดที่ลูกค้าสามารถมองเห็นได้ชัดเจนที่สุด
4. คุณควรศึกษาข้อมูลทางด้านการตลาดอย่างละเอียดและถี่ถ้วนเสียก่อน
คุณควรทำความเข้าใจและวิเคราะห์ถึงความต้องการของตลาดเพื่อให้ทราบว่าสินค้าชนิดใดที่กำลังเป็นที่ต้องการหรือกลุ่มเป้าหมายกำลังมองหาสินค้า ประเภทใดและพวกเขามีความต้องการสินค้าของคุณมากขนาด ไหน สินค้าของคุณสามารถตอบสนองความต้องการของพวก เขาได้หรือไม่ และแนวโน้มพฤติกรรมของลูกค้าในอนาคตว่าจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใดกลุ่มเป้าหมายลูกค้าของคุณคือใคร เพศอะไร อายุเท่าไหร่ รวมถึงศึกษาถึงจุดเด่นและจุดด้อยจากทางคู่แข่งทางธุรกิจเพื่อนำมาปรับใช้ในการพัฒนาธุรกิจของคุณ ให้มีประสิทธิภาพและดียิ่งๆขึ้นไป

5. ควรสร้างจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ให้กับธุรกิจของตนเอง
ยกตัวอย่างเช่นการตั้งชื่อร้านค้าที่มีความโดดเด่น และสั้นกระชับ เพื่อช่วยให้ลูกค้าจดจำได้ง่ายขึ้นภายในเวลาอันรวดเร็ว ช่วยเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้กับร้านค้าและสื่อให้ลูกค้ารู้ได้ในทันทีว่าร้านของคุณค้าขายอะไร หรืออาจจะตกแต่ง ร้านค้าให้เป็นเอกลักษณ์หรือมีความแตกต่างจากร้านอื่นๆหรือ อาจจะขายสินค้าที่มีความแปลกแหวกแนวทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าสินค้าที่เขาซื้อไปนั้นมีความพิเศษตรงที่มีเพียงชิ้นเดียวในโลก เท่านั้น
การวางแผนที่ดีก่อนจะทำธุรกิจใด ๆ ก็ตามย่อมเป็นผลดีต่อทั้งผู้ประกอบการและตัวของธุรกิจเองเพราะการ วางแผนจะทำให้คุณสามารถมองเห็นภาพรวมของธุรกิจได้ ชัดเจนมากยิ่งขึ้นทำให้เห็นทั้งข้อดีและข้อเสีย จุดเด่นจุดด้อยคุณอาจมองไม่เห็นเมื่อตอนก่อนที่คุณจะเริ่มวางแผนและช่วยให้คุณสามารถนำสิ่งเหล่านี้มาปรับใช้และพัฒนาให้ดีขึ้นเพื่อให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโตเจริญรุ่งเรืองและประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ
